Friday, May 21, 2010

ทุนปริญญาโท ปริญญาเอก Nikon-Chulalongkorn Scholarship 2010

ทุนปริญญาโท เอก Nikon-Chulalongkorn Scholarship 2010       

ด้วย Nikon Corporation ประเทศญี่ปุ่นมีความประสงค์จะมอบทุนการศึกษา Nikon-Chulalongkorn Scholarship 2010 ให้แก่บัณฑิตจุฬาฯ คณะวิทยาศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะนิเทศศาสตร์ ที่ประสงค์จะไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น จำนวน 1-2 คน

คุณสมบัติผู้สมัคร
1. อายุไม่เกิน 32 ปี (ณ วันที่ 1 เม.ย. 54)
2. จบการศึกษาระดับปริญญาตรี/โท หรือเทียบเท่า (หรือคาดว่าจะจบภายในวันที่ 31 มี.ค. 54)
3. สาขาวิชาที่สมัครเรียนต้องเป็นสาขาเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกันกับ สาขาที่ศึกษาที่จุฬาฯ
4. มีเกรดเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.00
5. มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษดี ถ้ามีความสามารถในการใช้ภาษาญี่ปุ่น จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ (โปรดแนบผลคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษ และ/หรือภาษาญี่ปุ่น และ/หรือระบุประสบการณ์การศึกษาหรือการใช้ภาษาญี่ปุ่น)
6. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี
7. ต้องไม่ใช่ผู้ที่กำลังสมัครหรือได้รับทุนการศึกษาอื่น (ในปีการศึกษา 2551 มีบัณฑิต 3 คน สละสิทธิ์ทุนนี้ เนื่องจากได้รับทุนอื่น)


เอกสารการสมัคร
1. ใบสมัครเข้ารับคัดเลือกเพื่อรับทุน Nikon-Chulalongkorn Scholarship
2. Application Form
3. หนังสือรับรอง (Recommendation Letter)
4. สำเนาผลการเรียน
5. ผลทดสอบภาษาอังกฤษ หรือภาษาอี่นๆ


ทุนที่จะได้รับ
1. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อเรียนพิเศษภาษาญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 เดือน
2. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อสอบเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท/เอก
(เดือนสิงหาคม 2553 หรือ เดือนกุมภาพันธ์ 2553 หรือ เดือนสิงหาคม 2554) 


ผู้ได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุนสามารถเข้าสอบได้ทั้ง 3 ช่วงเวลา แต่จะได้รับค่าใช้จ่ายจาก Nikon Corporation เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

หมายเหตุ: หากผู้ได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุนไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นได้ภายใน 1 ปี Nikon Corporation จะตัดสิทธิ์การเป็นผู้ได้รับทุน


3. ทุนการศึกษา 2,500,000 เยน/ปี (ประมาณ 750,000 บาท) ประกอบด้วยค่าเดินทาง ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยงรายเดือน และอื่นๆ ระยะเวลาไม่เกิน 2 ปีสำหรับหลักสูตรปริญญาโท และ 3 ปี สำหรับหลักสูตรปริญญาเอก


กำหนดการสัมภาษณ์ 5 หรือ 6 กรกฎาคม 2553 ที่ห้องประชุมสำนักงานวิรัชกิจ
     ในการนี้ สำนักงานวิรัชกิจใคร่ขอความอนุเคราะห์ในการประชาสัมพันธ์ให้ทรา บทั่วกัน ผู้สนใจสามารถส่งเอกสารการสมัครพร้อมสำเนาอีก 1 ชุด ไปยังสำนักงานวิรัชกิจ ภายในวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2553

Thursday, May 20, 2010

Fulbright ให้ทุน Foreign Language Teaching Assistant

Fulbright ให้ทุน Foreign Language Teaching Assistant 
                 
มูลนิธิการศึกษาไทย-อเมริกัน (ฟุลไบรท์) ประกาศรับสมัครชิงทุน Foreign Language Teaching Assistant (FLTA) Program ประจำปีการศึกษา 2554 โดยทุนการศึกษานี้ เป็นทุนประเภท non-degree สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมการปรับปรุงทักษะการสอนยกระดับความเชี่ยวชาญ ด้านภาษาอังกฤษ รวมทั้งส่งเสริมความเข้าใจด้านวัฒนธรรมและธรรมเนียมของชาวอเมริ กัน โดยประยุกต์ร่วมกับการเรียนรู้ในสถานการณ์จริง

ผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนเป็นค่าใช้จ่ายราย เดือน ค่าประกันสุขภาพ และค่าเดินทาง โดยสถาบันต้นสังกัดในสหรัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเล่าเรียนในราย วิชาที่จำ เป็น

  คุณสมบัติ ผู้สมัคร

1. สัญชาติไทย มีสุขภาพแข็งแรง
2. เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนมัธยมศึกษาในเครือข่ายความร่วมมือ Associated Schools Project Network (ASPnet) ของยูเนสโก หรือโรงเรียนสาธิต หรือโรงเรียนเครือข่ายของมูลนิธิฟุลไบรท์
3. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2553
4. อายุตั้งแต่ 21-29 ปี นับถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2553
5. พร้อมเข้ารับการสัมภาษณ์ในประเทศไทย
6. มีผลสอบ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 213 (CBT) หรือ 550 (paper-based) หรือ 80 (IBT) หรือ 6.0 (IELTS) นับจากวันสมัครย้อนไปไม่เกิน 2 ปี
7. จะต้องเดินทางกลับประเทศไทยภายหลังสิ้นสุดโครงการระยะ เวลา 9 เดือน ทั้งนี้ ทางโครงการไม่สนับสนุนให้ผู้รับทุนพำนักอยู่ในสหรัฐต่อ
8. เป็นผู้มีวุฒิภาวะพึ่งพาตนเองได้ มีความประพฤติดี และมีคุณสมบัติของนักวิชาชีพ

  ผู้สนใจโปรดสอบถามข้อมูลในวันและเวลาราชการ เพิ่มเติมที่มูลนิธิ การศึกษาไทย-อเมริกัน
อาคารไทวา 1 ชั้น 3 21/5 สาทรใต้ กรุงเทพฯ 10120
โทร. 0-2285-0581-2 หรือ อีเมล TUSEF@fulbrightthai.org

วันเวลารับสมัคร หมดเขต 10 มิถุนายน 2553

Wednesday, May 19, 2010

กลุ่มบริษัทชินคอร์ปให้ทุนศึกษาต่อป.โท

กลุ่มบริษัทชินคอร์ปให้ทุนศึกษาต่อป.โท แก่บุคคลทั่วไปอายุไม่เกิน 35 ปี จบปริญญาตรี เกียรตินิยม สาขาเทคโนโลยีโทรคมนาคมและการสื่อสาร TOEFL 550 สนใจสมัครได้ถึง 15 มิ.ย. 2553

นางจารุนันท์ อิทธิอาวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า กลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น และบริษัทในเครือ ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) และ บมจ.ไทยคม เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยมีการส่งเสริมพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงานในรูปแบบต่างๆ มาโดยตลอด ในปี 2553 กลุ่มบริษัทฯกำหนดให้มีการมอบทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาโททั้งในและต่าง ประเทศแก่พนักงาน

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯยังมอบทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาโทในต่างประเทศแก่บุคคลภายนอก จำนวน 2 ทุน เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอก มีโอกาสศึกษาต่อในต่างประเทศ และเพิ่มพูนความรู้ด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคมและการสื่อสารระดับสากล ตามโครงการรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาบุคลากรของประเทศให้มีคุณภาพ โดยผู้สนใจสามารถสมัครโครงการดังกล่าวได้ถึงวันที่ 15 มิ.ย.2553 ผ่าน www.shincorp.com

“ในปีนี้ กลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น เปิดให้ทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาโทในต่างประเทศแก่บุคคลภายนอกจำนวน 2 ทุน แก่บุคคลทั่วไปสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 35 ปี จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี เกียรตินิยม สาขาวิชาด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคมและการสื่อสาร และมีความรู้ภาษาอังกฤษเทียบเท่า TOEFL 550 เพื่อสอบคัดเลือกและสัมภาษณ์ตามเกณฑ์ที่กลุ่มบริษัทฯกำหนด ชิงทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาโทในต่างประเทศ สาขาวิชาด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคมและการสื่อสาร” นางจารุนันท์ กล่าว

Tuesday, May 18, 2010

ทุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านการเกษตร ระดับปริญญาตรี จำนวน 50 ทุน

ทุนจุฬา–พัฒนาเกษตรไทย ระดับปริญญาตรี จำนวน 50 ทุน

     หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดรับสมัครเพื่อคัดเลือกนิสิต โดยวิธีรับตรง (แบบพิเศษ) ปีการศึกษา 2554 จำนวน 50 คน รับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-7 กันยายน 2553

คุณสมบัติผู้สมัคร

1.มีสัญชาติไทยหรือเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎ หมาย

2.เป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2553

3.เป็นผู้ที่มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รวม 4 ภาคการศึกษาไม่ต่ำกว่า 2.75 ในแต่ละกลุ่มวิชา ดังนี้ กลุ่มวิชาภาษาไทย กลุ่มวิชาสังคมศึกษา กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ และรวมกันไม่ต่ำกว่า 2.00 ในแต่ละกลุ่มวิชา ดังนี้ กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ และกลุ่มวิชาอื่น

4.เป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาและศึกษาอยู่ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของ รัฐ หรือโรงเรียนที่คณะกรรมการศึกษาวิจัยทรัพยากรการเกษตร เห็นควรในเขตจังหวัดตามที่กำหนดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีติดต่อกันนับถึงวันสมัคร โดยกำหนดเขตพื้นที่เป็นจังหวัดต่าง ๆ ดังนี้

เขตพื้นที่พิเศษ จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และพะเยา ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องรอบพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาทรัพยากรการเกษตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีการพิจารณาให้ได้ทุนจุฬาฯ-พัฒนาเกษตรไทย ตามประกาศของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เขตพื้นที่ปรกติ ได้แก่จังหวัดอื่นนอกเหนือจาก 4 จังหวัดในเขตพื้นที่พิเศษ โดยผู้สมัครในเขตพื้นที่ปรกติที่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในจุฬา ลงกรณ์ มหาวิทยาลัย สามารถจะสมัครขอรับทุนการศึกษาอื่นของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

5.เป็นผู้พร้อมจะเข้ารับการศึกษา และฝึกปฏิบัติในพื้นที่ต่างจังหวัดโดยเฉพาะที่จังหวัดน่านได้

6.ควรเป็นผู้ที่มาจากครอบครัวที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม

7.เป็นผู้ที่มีอุดมการณ์ที่จะทำงานในชนบทด้วยความเสียสละ

8.เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญที่จะเป็นอุปสรรตต่อการศึกษา

9.เป็นผู้ที่มีความประพฤติดีและรับรองต่อมหาวิทยาลัยได้ว่าจะตั้งใจศึกษา เล่าเรียนเต็มความสามารถ และยินยอมปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่แล้ว หรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัดทุกประการ

หากปรากฏในภายหลังว่าผู้สมัครขาด คุณสมบัติในข้อใดข้อหนึ่ง หรือตรวจสอบพบในภายหลังว่าข้อความที่แจ้งไว้ในใบสมัครเป็นเท็จ หรือหลักฐานประกอบการสมัครเป็นเอกสารเท็จหรือปลอม ผู้สมัครจะถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการคัดเลือกครั้งนี้ แม้ว้าผู้สมัครจะได้สมัครหรือได้ผ่านการคัดเลือกแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีอาญาตากฎหมายอีกด้วย


หลักฐานประกอบการสมัคร


1.ใบ สมัครคัดเลือกเข้าศึกษาระดับปริญญาตรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยวิธีรับตรง (แบบพิเศษ) ปีการศึกษา 2554 พร้อมติดรูปถ่ายจำนวน 1 รูป (รูปถ่ายขนาด 3×4 ซม. เป็นรูปหน้าตรงไม่สวมหมวกและแว่นตาดำ ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน)


2.เอกสารประกอบการสมัครซึ่งกรอกรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว (สามารถดาวน์โหลดได้จาก http://www.atc.chula.ac.th และ http://www.admissions.chula.ac.th)


3.สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียนเฉลี่ยสะสมในระดับชั้นมัธยมศึกษาป ีที่ 4-5 รวมภาคการศึกษาที่สถานศึกษาออกให้ พร้อมประทับตราโรงเรียน


4.สำเนาบัตรประจำตัว ประชาชน (ถ่ายเอกสารหน้า-หลังให้อยู่ในหน้าเดียวกัน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)


5.สำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน (ถ่ายเอกสารหน้า-หลังให้อยู่ในหน้าเดียวกัน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)


6.สำเนาทะเบียนบ้าน (พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)


7.สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (เฉพาะในกรณีที่ชื่อ-นามสกุลในเอกสารการสมัครไม่ตรงกัน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)


8.หนังสือรับรองการเป็นนักเรียนและความประพฤติจากสถานศึกษาที่กำลังศึกษา


9.ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของ รัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งออกให้ไม่เกิน 1 เดือน
กรณีผู้สมัครในเขตพิเศษ ต้องมีหนังสือรับรองเงินเดือนของบิดา/มารดา ผู้ปกครอง (กรณีมีรายได้ประจำ) และหรือเอกสารอื่น ๆ ที่แสดงรายได้ พร้อมลงนามรับรองเอกสารทุกฉบับ

ทุนการศึกษา


     คณะกรรมการดำเนินการรับนักเรียนของคณะกรรมการการศึกษาวิจัยทรัพยากรการเกษตร จะพิจารณาผลคะแนนสอบ ข้อมูลจากใบสมัคร หลักฐานประกอบการสมัคร และหากเห็นสมควรให้มีการตรวจสภาพเกี่ยวกับฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้สมัคร โดยคณะกรรมการดำเนินการรับนักเรียนของคณะกรรมการการศึกษาวิจัยทรัพยากรการเกษตร จะปฏิบัติการตรวจสภาพข้อเท็จจริงโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยสามารถกระทำได้ตลอดเวลาทั้งก่อนและหลังการรับเข้าศึกษาแล้ว ถ้าหากพบว่ามีการปกบิดข้อมูลใด ๆ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีสิทธิ์ยกเลิกการให้ทุน หรือพ้นสภาพการเป็นนิสิตได้

สิทธิ์ที่ได้รับทุนจุฬาฯ-พัฒนา เกษตรไทย

ทุนประเภท ก. จะได้รับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนี้

1.ได้รับค่าอาหารและใช้จ่ายส่วนตัว ประจำเดือน ๆ ละ 4,000 บาท ปีละ 10 เดือน


2.ได้ รับค่าอุปกรณ์การศึกษา ภาคการศึกษาละ 1,500 บาท ปีละ 3,000 บาท


3.ได้ รับค่าเครื่องแต่งกาย ภาคการศึกษาละ 1,000 บาท ปีละ 2,000 บาท


4.ได้รับค่าใช้ จ่ายอื่น ๆ ได้แก่ ค่าเล่าเรียน ค่าหอพัก ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น


ทุนประเภท ข. จะได้รับเช่นเดียวกับทุนประเภท ก. ยกเว้นค่าอาหารและใช้จ่ายส่วนตัว


     หมายเหตุ ผู้ที่ได้รับทุนจุฬาฯ-พัฒนา เกษตรไทย จะต้องทำสัญญาการรับทุนจุฬาฯ-พัฒนาเกษตรไทย กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องไปปฏิบัติงานในเขตพื้นที่พิเศษจังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ หรือพะเยา ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องรอบพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาทรัพยากรการเกษตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นระยะเวลา 3 ปี

     การสมัคร เมื่อกรอกใบสมัครทาง http://www.atc.chula.ac.th แล้ว ชำระค่าธรรมเนียมการสมัครส่งใบสมัครและเอกสารการสมัครทางไปรษณีย์ที่โครงการ รับตรง ปีการศึกษา 2554 หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตร โดยวิธีรับตรง ศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาคารจามจุรี 8 ชั้น 3 ถนนพญาไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

ที่มา:http://www.moe.go.th

Monday, May 17, 2010

จุฬาฯ รับตรงพิเศษ พร้อมทุนการศึกษา 4 คณะ นิเทศ-วิทย์-บัญชี-อักษร

จุฬาฯ รับตรงพิเศษพร้อมทุนการศึกษา 4 คณะ นิเทศ-วิทย์-บัญชี-อักษร        

        สาขาวิขาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์  คณะวิทยาศาสตร์ โครงการโอลิมปิกวิขาการ โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กและเยาวชน โครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี(พสวท.) และ โครงการรับนักเรียนจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์ และโรงเรียนในโครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์ (สสวท., สพฐ., และวมว.)  และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (คณะนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์  คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี 
รับสมัครระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคมถึงวันที่ 4 มิถุนายน 2553)

ส่วนโครงการคัดนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษทางด้านภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยวิธีรับตรง(แบบพิเศษ) ประจำปีการศึกษา 2554 รับสมัครระหว่างวันที่ 1-7 กันยายน 2553

          ทุนการศึกษา ผู้ที่เข้าศึกษาตามโครงการผู้มึความสามารถพิเศษทางด้านภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จะได้รับทุนยกเว้นค่าเล่าเรียน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตลอด 4 ปีการศึกษา โดยต้องมีคะแนนเฉลี่ยรายวิชาภาษาไทยแต่ละปีการศึกษา ไม่ต่ำกว่า 3.00 และคะแนนเฉลี่ยสะสมของทุกรายวิชาไม่ต่ำกว่า 2.00

          ทุนการศึกษาโครงการโอลิมปิกวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ จะได้ทุนการศึกษาจำนวนไม่เกิน 3 ทุน ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายส่วนตัวปีละ 30,000 บาท และได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียน ตลอดระยะเวลา 4 ปี แก่ผู้ที่ศึกษาในสาขาวิขาที่ตรงการสาขาวิชาที่เข้าค่ายโอลิมปิก วิชาการ คือคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เคมี ฟิสิกส์ และชีววิทยา(สำหรับสาขาชีววิทยาสามารถเลือกศึกษาในสาขาวิชาชีววิทยา สัตววิทยา พฤษศาสตร์ หรือพันธุศาสตร์ได้)


        ทุนการศึกษาโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโล ยี (พสวท.) ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นนิสิตในโครงการพสวท.ระดับปริญญาตรีจะได้รับทุนการศึกษาเป็นค่าเล่าเรียนตามที่จ่ายจริง ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายส่วนตัวปีละ 48,000 บาท ค่าหนังสืออ่านประกอบการเรียนปีละ 5,000 บาท และเงินอุดหนุนการทำวิจัย 5,000 บาท

          ทุนการศึกษาจากโครงการโรงเรียนวิทยาศาสตร์ และโครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์ คณะฯให้ทุนเป็นค่าเล่าเรียนไม่เกิน 20 ทุนตลอดระยะเวลา 4 ปี แก่ผู้ที่ศึกษาผ่านตามเกณฑ์ที่คณะวิทยาศาสตร์กำหนด โดยคณะฯจะประกาศรายชื่อให้ทราบในภายหลัง

  คณะ/จำนวนรับ 
  -คณะนิเทศศาสตร์ รับจำนวน 10 คน

  -คณะอักษรศาสตร์ รับจำนวน 15 คน

  -คณะบัญชี รับจำนวน 300 คน(หลักสูตรบัญชีบัญฑิต รับจำนวน 150 คน, หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต รับจำนวน 150 คน)

          คณะวิทยาศาสตร์ รับจำนวน 125 คน(โครงการโอลิมปิกวิขาการ 50ตน, โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กและเยาวชน 10 คน, โครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี (พสวท.) 15 คน, โครงการรับนักเรียนจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์ และโรงเรียนในโครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์ (สสวท., สพฐ., และวมว.) 50 คน)

คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร


  1.มีสัญชาติไทย หรืออยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

  2.เป็นผู้กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2553 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์

  3.มีคุณสมบัติตามที่หลักสูตร คณะ/โครงการกำหนด ตามที่ปรากฎในเว็บไซคฺ์ http://www.atc.chula.ac.th

  4.เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคสำคัญที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

  5.เป็นผู้ที่มีความประพฤติดีและรับรองต่อมหาวิทยาลัยว่า จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเต็มความสามารถและยินยอมปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับของมหาวิทยาลับที่มีอยู่แล้ว หรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัดทุกประการ

หลักฐานประกอบการสมัคร

  1.ใบสมัครคัดเลือกเข้าศึกษาระดับ ปริญญาตรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยวิธีรับตรง(แบบพิเศษ)ปีการศึกษา 2554 พร้อมติดรูปถ่ายจำนวน 1 รูป(รูปถ่ายขนาด 3× 4 ซม.เป็นรูปหน้าตรงไม่สวมหมวกและแว่นตาดำ ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน)

  2.เอกสารประกอบการสมัครซึ่งกรอกรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว(สามารถดาวน์โหลดได้ จาก http?/www.atc.chula.ac.th และ http://www.admissions.chula.ac.th)

  3.สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียนที่แสดงค่าผลการเรียนเฉลี่ยสะสม(G PAX)คำนวณจาก ผลการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รวม 4 ภาคการศึกษา หรือชั้นปีที่ 1 ของโครงการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนที่มีความสามารถพิเศษที่สถานศึกษาออกให้ พร้อมประทับตราโรงเรียน

  4.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน(ถ่ายเอกสารหน้า - หลังให้อยู่ในหน้าเดียวกันพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)

  5.สำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน(ถ่ายเอกสารหน้า - หลังให้อยู่ในหน้า เดียวกัน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)

  6.สำเนาทะเบียนบ้าน(พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)

  7.ใบรับรองความประพฤติจากสถานศึกษาที่กำลังศึกษา(ตามแบบฟอร์มที่กำหนด)

  8.สำเนาหลักฐานที่แสดงว่ามีความสามารถพิเศษและความถนัดเป็นพิเศษ ทางด้านที่หลักสูตรกำหนด

  9.สำเนาผลการสอบภาษาอังกฤษ CU-TEP ที่ได้คะแนนสอบไม่ต่ำกว่า 450 คะแนน (พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)สามารถใช้ผลย้อนหลังได้ไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร

  10.ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองจากทางการซึ่งออกให้ภายใน 1 เดือน

          การสมัครให้ส่งใบสมัคร เอกสารประกอบการสมัคร และหลักฐานที่โครงการกำหนดไปที่ โครงการรับตรง ปีการศึกษา 2554 ศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาคารจามจุรี 8 ชั้น 3 ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ศึกษาและวิจัย ระดับ ปริญญาตรี ปีการศึกษา 2554 ด่วนกว่า 70 ทุน

สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะคัดเลือกและเสนอชื่อนักเรียน ไทยเพื่อมอบทุนการ ศึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่นให้แก่ผู้ที่มีความประสงค์ไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นใน ระดับอุดมศึกษา และในสถาน ศึกษาชั้นสูงของญี่ปุ่นประกาศเปิดรับสมัครทุนรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทนักศึกษา วิจัยและนักศึกษาปริญญาตรี ประจำปีพ.ศ.2554


1.ระดับปริญญาตรี
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะคัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไป ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นในฐานะนักศึกษาต่างชาติ เป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ 10 ทุน ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 22 ปี สำเร็จหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสูตรการศึกษา 12 ปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 5 ปี และ 7 ปี สำหรับคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี )

2. ระดับนักศึกษาวิจัย
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะคัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไป ศึกษาวิจัยในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นในฐานะนักศึกษาวิจัยต่าง ชาติเป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ 50 ทุน ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 35 ปี สำเร็จหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีระยะเวลา รับทุนการศึกษา 2 ปี (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่นครึ่งปี) แต่ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่ศึกษาไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรปริญญาโท หลักสูตรปริญญาเอก หรือหลักสูตรการศึกษาวิชาเฉพาะทางกำหนดให้ระยะเวลารับทุนการศึกษาจนกว่าจะ สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรนั้นๆ

3. ทุนญี่ปุ่นศึกษา
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยคัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไปศึกษา แลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นในฐานะนักศึกษาต่างชาติเพื่อไปเพิ่มพูน ทักษะความรู้ภาษาญี่ปุ่น และศึกษาวัฒนธรรม สภาพสังคมเป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ 5 ทุน ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 30 ปี กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย และศึกษาภาษาญี่ปุ่น หรือวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นวิชาเอก ระยะเวลารับทุนการศึกษา 1 ปี

4. ทุนอบรมวิชาชีพครู
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะคัดเลือกครูในสังกัดกระทรวง ศึกษาธิการเพื่อไปศึกษาวิจัยเกี่ยวกับด้านการศึกษาที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น เป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ 10 ทุน ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 35 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มีประสบการณ์ในวิชาชีพมาไม่น้อยกว่า 5 ปี สอนในระดับประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษาหรือสอนในสถาบันพัฒนาอาชีพครู ระยะเวลารับทุนการศึกษา 1 ปี 6 เดือน (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่นครึ่งปี)

5.ทุนวิทยาลัยเทคนิค
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะคัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไป ศึกษาในวิทยาลัยเทคนิคที่ญี่ปุ่นในฐานะนักศึกษาต่างชาติเป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ 2 ทุน ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 22 ปี สำเร็จหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาในปีที่ 11 ขึ้นไปนับจากประถมศึกษา ตามหลักสูตรการศึกษา 12 ปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 4 ปี (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)

6. ทุนฝึกอบรมวิชาชีพ
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะคัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไป ศึกษาในสถาบันอาชีวะศึกษาที่ญี่ปุ่นในฐานะนักศึกษาต่างชาติเป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ 2 ทุน ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 22 ปี สำเร็จหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสูตรการศึกษา 12 ปี หรือสำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรตามที่สถาบันอาชีวะศึกษา ของญี่ปุ่นให้การยอมรับ ระยะเวลารับทุนการศึกษา 3 ปี (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)

7. Young Leaders’ Program
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะคัดเลือกข้าราชการสามัญ ผู้ซึ่งเป็นอนาคตในการพัฒนาประเทศไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย ที่ญี่ปุ่น ทุนแบ่งออกเป็น 5 สาขาวิชาคือ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาการปกครองส่วนท้องถิ่น สาขาวิชาการบริหารทางแพทยศาสตร์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชานิติศาสตร์ ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 40 ปี (ไม่เกิน 35 ปีสำหรับสาขาวิชาบริหารธุรกิจ) จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีประสบการณ์การทำงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐบาลมามากกว่า 3-5 ปี (คุณสมบัติจะแตกต่างไปตามสาขาที่สมัคร) ทั้งนี้ผู้สมัครต้องได้รับการเสนอชื่อจากหน่วยงาน หรือองค์กรที่สังกัด

*กรุณาตรวจสอบเงื่อนไข และรายละเอียดของทุนแต่ละประเภทก่อนสมัคร
         ผู้สนใจสามารถดูรายระเอียดทั้งหมด รวมทั้งขั้นตอนการสมัครได้ที่ http://www.th.emb-japan.go.jp/th/jis/study.htm

Sunday, May 16, 2010

ทุนเรียนต่อ Monbukagakusho ประเทศญี่ปุ่น ป.ตรี

ด้วยสถานเอกอัครราชทูต ญี่ปุ่นประจำประเทศไทยได้มีหนังสือถึงกระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่ารัฐบาล ญี่ปุ่น (กระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น) จะให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทย ประจำปี 2554จำนวน 2 หลักสูตร โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. หลัก สูตร College of Technology Students เพื่อศึกษาต่อระดับวิทยาลัยเทคนิคของญี่ปุ่น ระยะเวลา 4 ปี โดยเริ่มในเดือนเมษายน 2554 (หลักสูตร 3 ปี เรียนภาษาญี่ปุ่น และวิชาพื้นฐาน 1 ปี) ผู้ได้รับทุนนี้ อาจขยายเวลารับทุนเพื่อศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นได้ หากมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี
คุณสมบัติของผู้สมัครรับทุน
- มีอายุอย่างน้อย 17 ปี และไม่เกิน 21 ปี (นับถึงวันที่ 1 เมษายน 2537)
- คะแนนเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
- เรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6  หรือเทียบเท่า (สำเร็จการศึกษาในเดือนมีนาคม 2554)

2. หลักสูตร Specialized Training College Students เพื่อศึกษาหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรด้านวิชาชีพ ระยะเวลาศึกษา 3 ปี โดยเริ่มในเดือนเมษายน 2554 (หลักสูตร 2 ปี เรียนภาษาญี่ปุ่น และวิชาพื้นฐาน 1 ปี) ผู้ได้รับทุนนี้ อาจขยายเวลารับทุนเพื่อศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นได้ หากมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี
คุณสมบัติของผู้สมัครรับทุน
- มีอายุอย่างน้อย 17 ปี และไม่เกิน 21 ปี (นับถึงวันที่ 1 เมษายน 2537)
- คะแนนเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
- เรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า (สำเร็จการศึกษาในเดือนมีนาคม 2554)

เอกสารประกอบการสมัคร รับทุนของทั้ง 2 หลักสูตร คือ
1. ใบสมัคร  1 ชุด
2. บัตรเข้าสอบ  1 ชุด
3. รูปถ่าย   3 รูป
4. เอกสารแสดงผลการเรียนภาษาอังกฤษ  1 ชุด
5. เอกสารรับรองว่ากำลังศึกษาอยู่ภาษาอังกฤษ 1 ชุด

ทั้ง นี้ หากนักเรียนที่สนใจสมัครรับทุนดังกล่าว สามารถจัดส่งใบสมัครและเอกสารประกอบ ไปยังสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สป. กระทรวงศึกษาธิการ ดุสิต กรุงเทพฯ 10300  ภายในวันที่ 7 กรกฎาคม 2553  สำหรับดาวน์โหลดใบสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ http://www.bic.moe.go.th   หากมีข้อสงสัยกรุณาสอบถามไปยังหมายเลขโทรศัพท์ 02 6285646 ต่อ 105 , 115

ต้องการดูทุนเรียนต่ออื่น